วันพุธที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2553
วันอังคารที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2553
เว็บแนวตั้ง - เว็บแนวนอน
เว็บแนวนอน
ขนาดของหน้าเว็ป : 48793*558
การจัดวางตำแหน่งของ LOGO เนื้อหา ภาพประกอบ
ส่วนหัว : รูปภาพของเว็บ
ส่วนกลาง : รูปภาพของบล็อก
ส่วนท้าย : concept ของรูป
ตำแหน่งของเมนู : ไม่มี
ลักษณะของเมนู :ไม่มี
การจัดวางตำแหน่งของ LOGO เนื้อหา ภาพประกอบ
ส่วนหัว : รูปภาพของเว็บ
ส่วนกลาง : รูปภาพของบล็อก
ส่วนท้าย : concept ของรูป
ตำแหน่งของเมนู : ไม่มี
ลักษณะของเมนู :ไม่มี
เว็บแนวตั้ง
ขนาดของหน้าเว็ป : 800*600 px
การจัดวางตำแหน่งของ LOGO เนื้อหา ภาพประกอบ
ส่วนหัว : Home / News / Score / Radio / Tv / Gallery / Webboard / Contact
ส่วนกลาง : สไลด์ภาพอัพเดทข่าวสาร , โฆษณา
ส่วนท้าย : รายงานผลสกอร์และอันดับตารางคะแนน , โฆษณา
ตำแหน่งของเมนู : อยู่ทางด้านบนของเว็ป
ลักษณะของเมนู : เป็นรูปแบบตัวอักษร
การจัดวางตำแหน่งของ LOGO เนื้อหา ภาพประกอบ
ส่วนหัว : Home / News / Score / Radio / Tv / Gallery / Webboard / Contact
ส่วนกลาง : สไลด์ภาพอัพเดทข่าวสาร , โฆษณา
ส่วนท้าย : รายงานผลสกอร์และอันดับตารางคะแนน , โฆษณา
ตำแหน่งของเมนู : อยู่ทางด้านบนของเว็ป
ลักษณะของเมนู : เป็นรูปแบบตัวอักษร
โครงการ
ชื่อโครงการ : Atios Stud Shop
ข้อมูลและลักษณะโครงการ : เป็นการสร้างสังคมออนไลน์สำหรับคนที่ชอบรองเท้าฟุตบอล เพื่อเปิดโอกาศให้คนที่ชอบรองเท้าฟุตบอล ได้เข้ามาพูดคุยกันและสามารถซื้อสินค้าในราคาถูก
ปัญหา : การทำให้สังคมออนไลน์แห่งนี้เป็นที่รู้จักของคนที่ชอบรองเท้าฟุตบอล
จุดมุ่งหมาย : เพื่อให้เกิดมิตรภาพออนไลน์ของคนที่ชื่นชอบรองเท้าฟุตบอลและความสดวกสบายในการซื้อรองเท้าฟุตบอล
กลุ่มเป้าหมาย : ทุกเพศทุกวัยที่ชื่อชอบรองเท้าฟุตบอลและกีฬาฟุตบอล
แนวความคิด : ร้องเท้าดีมีคุณภาพ
รูปแบบและการนำเสนอ : นำเสนอผ่าน WebSite เพื่อให้ความสดวกสบายต่อผู้ที่ชื่นชอบรองเท้าฟุตบอลและเพื่อให้ความสดวกสบายต่อคนที่ต้องการข้อมูลรองเท้าฟุตบอล
จำนวนและปริมาณงาน : WebSite
ข้อมูลและลักษณะโครงการ : เป็นการสร้างสังคมออนไลน์สำหรับคนที่ชอบรองเท้าฟุตบอล เพื่อเปิดโอกาศให้คนที่ชอบรองเท้าฟุตบอล ได้เข้ามาพูดคุยกันและสามารถซื้อสินค้าในราคาถูก
ปัญหา : การทำให้สังคมออนไลน์แห่งนี้เป็นที่รู้จักของคนที่ชอบรองเท้าฟุตบอล
จุดมุ่งหมาย : เพื่อให้เกิดมิตรภาพออนไลน์ของคนที่ชื่นชอบรองเท้าฟุตบอลและความสดวกสบายในการซื้อรองเท้าฟุตบอล
กลุ่มเป้าหมาย : ทุกเพศทุกวัยที่ชื่อชอบรองเท้าฟุตบอลและกีฬาฟุตบอล
แนวความคิด : ร้องเท้าดีมีคุณภาพ
รูปแบบและการนำเสนอ : นำเสนอผ่าน WebSite เพื่อให้ความสดวกสบายต่อผู้ที่ชื่นชอบรองเท้าฟุตบอลและเพื่อให้ความสดวกสบายต่อคนที่ต้องการข้อมูลรองเท้าฟุตบอล
จำนวนและปริมาณงาน : WebSite
คุณคิดว่าสื่อมัลติมิเดียอะไร มีอิทธิพลต่อตัวเรามากที่สุด
สื่อมัลติมีเดียมีอิทธิพลต่อมนุษย์เราอย่างมากเนื่องจากปัจจุบันเรารับสื่อได้จากหลายช่องทางอย่างมากทั้ง โทรทัศ โทรศัพท์ คอมพิวเตอร์ และอื่นๆอีกมากมาย แล้วสื่อมัลติมีเดียมีใช้มานานแล้ว ส่วนมากจะใช้เพื่อการเรียนการสอน และการนำเสนอเพื่อการโฆษณาประชาสัมพันธ์ มัลติมีเดียเพื่อการเรียนการสอนในช่วงแรกนั้นเป็นเพียงการได้เห็นและได้ยิน อุปกรณ์ที่ใช้อาจเป็นเครื่องเล่นเทปซึ่งต่อพ่วงหรือเล่นร่วมกับเครื่องฉายฟิล์มสคริปต์ เครื่องฉายสไลด์เป็นต้น ต่อมามัลติมีเดียได้มีการนำมาใช้กับคนกลุ่มใหญ่ขึ้น มีวิธีการและรูปแบบการนำเสนอที่ซับซ้อนขึ้น อาจต้องใช้เครื่องเล่นหลายเครื่อง ซึ่งทั้งหมดควบคุมสัญญาณด้วยระบบคอมพิวเตอร์ ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ ทำให้รูปแบบการนำเสนอข้อมูลข่าวสารผ่านจอคอมพิวเตอร์แตกต่างกันไปบ้าง แต่โครงสร้างพื้นฐานของการนำเสนอยังคงเน้นที่ การเปิดโอกาสให้ผู้ใช้ได้เห็น ได้เลือก และรับฟังข้อมูลข่าวสารผ่านจอคอมพิวเตอร์
ดังนั้นผมคิดว่าสื่อมัลติมีเดียที่มีอิทธิพลต่อเรามากที่สุดคือ คอมพิวเตอร์ เนื่องจากปัจจุบันคอมพิวเตอร์มีบทบากมากมายในโลกปัจจุบันและในอนาคตต่อไป
ภาพสื่อความหมาย
กลุ่มเป้าหมาย : ผู้ที่ชื่นชอบการเล่นกีฬาฟุตบอลเเละผู้ที่สนใจจะเล่นกีฬาฟุตบอล
แนวคิด : สินค้ามีคุณภาพ ราคาย่อมเยา
อารมณ์และความรู้สึก : สวยงามจับต้องได้ในราคาไม่แพง
สีและองค์ประกอบการออกแบบ
องค์ประกอบการออกแบบ(Element of design)
สีขึ้นที่1Primary -ประกอบด้วย สี แดง สีเหลือง และสีน้ำเงิน ซึ่งเมื่อนำแม่สีทั้งสามมาผสมกันในอัตราส่วนต่างๆก็จะเกิดสีขึ้นมามากมาย ซึ่งประโยชน์ จากการที่เรานำสีมาผสมกันทำให้เรา สามารถเลือกสีต่างๆมาใช้ได้ตามความพอใจ สร้างสรรค์ผลงานศิลปะที่งดงามตามความพอใจขอผู้สร้าง สีที่เกิดจากการนำเอาแม่สีมา ผสมกัน เกิดสีใหม่เมื่อนำมาจัดเรียงอย่างเป็นระบบ รวมเรียกว่าวงจรสี
สีขั้นที่ 2 (Binary Color)- เกิดจากการนำเอาสีขั้นที่ 1 (แม่สี ) มาผสมในอัตราส่วนเท่าๆกันประกอบด้วยสี เขียว สีส้ม และสีม่วง
สีขั้นที่ 3 (Intermediate Color)-เกิดจากการนำเอาสีขั้นที่ 2 ผสมกับสีขั้นต้นที่อยู่ใกล้เคียงกันได้สีแตกต่างออกไป ได้แก่ สีเหลืองแกมเขียว สีน้ำเงินแกมม่วง สีแดงแกมม่วง สีแดงแกมส้ม สีเหลืองแกมส้ม และสีน้ำเงินแกมเขียว
ศัพท์ที่เกี่ยวกับสี
1.Hue=ตัวสี,เนื้อสี
2.Saturation=ความเข้มข้นของสีสีเช่น ขาวจั้ว แดงแป๊ด ดำปี๋
3.Value=ค่านํ้าหนักของสี
ระบบสี
ระบบสีแบบ CMYK = (CYAN,MAGENTA,YELLOW,KEY)ระบบสีแบบ CMYK เป็นระบบที่นิยมใช้กันในเรื่องของการพิมพ์ การนำหมึกสีทั้งสี่ในระบบ CMYK มาผสมกัน จะทำให้เกิดสีได้หลากหลายสีเพื่อนำมาใช้ในการพิมพ์ภาพต่างๆ ถ้าคุณลองสังเกตุดีดีหรือลองใช้แว่นขยายส่องไปที่ภาพที่พิมพ์ด้วยระบบ CMYK คุณจะเห็นมีเม็ดสีเม็ดเล็กทั้งสี่สีอยู่เต็มไปหมด ในส่วนของการใช้งานนั้น ตามที่กล่าวไว้ข้างต้นว่าระบบ CMYK จะใช้สำหรับงานที่ออกแบบมาเพื่อ Print out เช่น งานโปสเตอร์ นามบัตร แผ่นพับ งานสิ่งพิมพ์ต่างๆ
ระบบสีแบบ RGB = (RED,GREEN,BLUE)สีที่แสดงในระบบสีแบบ RGB นั้นอธิบายสั้นๆให้เข้าใจง่ายคือ สีที่ใช้บนจอMonitor ของคอมพิวเตอร์นั้นเอง โดยหลักการของระบบสี RGB คือ แสงสีแดงแสงสีเขียว และแสงสีฟ้า ทำการผสมกันในอัตราส่วนที่แตกต่างจนเกิดเป็นสีต่างๆให้เรามองเห็น ส่วนในด้านของการใช้งานนั้น ระบบสีแบบ RGB เราจะใช้สำหรับภาพกราฟฟิกที่แสดงบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์แสดงผลในรูปแบบจอมอนิเตอร์ เช่น ภาพตามwebsiteต่างๆ ฯลฯ
การแต่งตัว(หลักการเลือกสี)
Color Combination
1.monochromatic คื่อการใช้สีเดียว เพื่อสร้างความแตกต่าง ด้วยระดับความมือสว่างของสี (โมโนโทน)
2.triads คือการใช้สีตามสีที่อยู่ตัดกันใกล้เคียงกัน เพื่อให้เกิดความแตกต่างของสี อย่างชัดเจน ลดระดับของความเข้มก็ได้
3.analogous คือการใช้สีที่อยู๋ติดกันใกล้เคียงกัน โดยเืลือกจากสีที่อยู๋ถัดไป 2-3 สีสามารถสร้างความกลมกลืนได้ดี
4.complementary คือการใช้สีตรงข้ามกัน สามารถช่วยเน้นความโดดเด่นได้ดี การใช้สีดำหรือเทา เพื่อลดความรุนแรงของสี นอกจากนั้นการใช้สี 2 สีที่แตกต่างกันมาก จะทำให้มีความสำคัญเท่ากันดังนั้นจึงควรลดความเข้มของสีหนึ่งลง
5.split-complements คือการใช้สีผสม เป็นการผสมผสานระหว่างสีโทนร้อนและเย็น โดยเริ่มจากการเลือกสีใดสีหนึงและจับคู่กับอีก 2 สี ในโทนสีตรงข้ามกัน
สีขึ้นที่1Primary -ประกอบด้วย สี แดง สีเหลือง และสีน้ำเงิน ซึ่งเมื่อนำแม่สีทั้งสามมาผสมกันในอัตราส่วนต่างๆก็จะเกิดสีขึ้นมามากมาย ซึ่งประโยชน์ จากการที่เรานำสีมาผสมกันทำให้เรา สามารถเลือกสีต่างๆมาใช้ได้ตามความพอใจ สร้างสรรค์ผลงานศิลปะที่งดงามตามความพอใจขอผู้สร้าง สีที่เกิดจากการนำเอาแม่สีมา ผสมกัน เกิดสีใหม่เมื่อนำมาจัดเรียงอย่างเป็นระบบ รวมเรียกว่าวงจรสี
สีขั้นที่ 2 (Binary Color)- เกิดจากการนำเอาสีขั้นที่ 1 (แม่สี ) มาผสมในอัตราส่วนเท่าๆกันประกอบด้วยสี เขียว สีส้ม และสีม่วง
สีขั้นที่ 3 (Intermediate Color)-เกิดจากการนำเอาสีขั้นที่ 2 ผสมกับสีขั้นต้นที่อยู่ใกล้เคียงกันได้สีแตกต่างออกไป ได้แก่ สีเหลืองแกมเขียว สีน้ำเงินแกมม่วง สีแดงแกมม่วง สีแดงแกมส้ม สีเหลืองแกมส้ม และสีน้ำเงินแกมเขียว
ศัพท์ที่เกี่ยวกับสี
1.Hue=ตัวสี,เนื้อสี
2.Saturation=ความเข้มข้นของสีสีเช่น ขาวจั้ว แดงแป๊ด ดำปี๋
3.Value=ค่านํ้าหนักของสี
ระบบสี
ระบบสีแบบ CMYK = (CYAN,MAGENTA,YELLOW,KEY)ระบบสีแบบ CMYK เป็นระบบที่นิยมใช้กันในเรื่องของการพิมพ์ การนำหมึกสีทั้งสี่ในระบบ CMYK มาผสมกัน จะทำให้เกิดสีได้หลากหลายสีเพื่อนำมาใช้ในการพิมพ์ภาพต่างๆ ถ้าคุณลองสังเกตุดีดีหรือลองใช้แว่นขยายส่องไปที่ภาพที่พิมพ์ด้วยระบบ CMYK คุณจะเห็นมีเม็ดสีเม็ดเล็กทั้งสี่สีอยู่เต็มไปหมด ในส่วนของการใช้งานนั้น ตามที่กล่าวไว้ข้างต้นว่าระบบ CMYK จะใช้สำหรับงานที่ออกแบบมาเพื่อ Print out เช่น งานโปสเตอร์ นามบัตร แผ่นพับ งานสิ่งพิมพ์ต่างๆ
ระบบสีแบบ RGB = (RED,GREEN,BLUE)สีที่แสดงในระบบสีแบบ RGB นั้นอธิบายสั้นๆให้เข้าใจง่ายคือ สีที่ใช้บนจอMonitor ของคอมพิวเตอร์นั้นเอง โดยหลักการของระบบสี RGB คือ แสงสีแดงแสงสีเขียว และแสงสีฟ้า ทำการผสมกันในอัตราส่วนที่แตกต่างจนเกิดเป็นสีต่างๆให้เรามองเห็น ส่วนในด้านของการใช้งานนั้น ระบบสีแบบ RGB เราจะใช้สำหรับภาพกราฟฟิกที่แสดงบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์แสดงผลในรูปแบบจอมอนิเตอร์ เช่น ภาพตามwebsiteต่างๆ ฯลฯ
การแต่งตัว(หลักการเลือกสี)
Color Combination
1.monochromatic คื่อการใช้สีเดียว เพื่อสร้างความแตกต่าง ด้วยระดับความมือสว่างของสี (โมโนโทน)
2.triads คือการใช้สีตามสีที่อยู่ตัดกันใกล้เคียงกัน เพื่อให้เกิดความแตกต่างของสี อย่างชัดเจน ลดระดับของความเข้มก็ได้
3.analogous คือการใช้สีที่อยู๋ติดกันใกล้เคียงกัน โดยเืลือกจากสีที่อยู๋ถัดไป 2-3 สีสามารถสร้างความกลมกลืนได้ดี
4.complementary คือการใช้สีตรงข้ามกัน สามารถช่วยเน้นความโดดเด่นได้ดี การใช้สีดำหรือเทา เพื่อลดความรุนแรงของสี นอกจากนั้นการใช้สี 2 สีที่แตกต่างกันมาก จะทำให้มีความสำคัญเท่ากันดังนั้นจึงควรลดความเข้มของสีหนึ่งลง
5.split-complements คือการใช้สีผสม เป็นการผสมผสานระหว่างสีโทนร้อนและเย็น โดยเริ่มจากการเลือกสีใดสีหนึงและจับคู่กับอีก 2 สี ในโทนสีตรงข้ามกัน
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)